การทดสอบ FIT หรือ Immunochemical Fecal Occult Blood Test เป็นการตรวจที่มีประสิทธิภาพสำหรับคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ซึ่งช่วยลดอัตราการตาย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง นับเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มต้น เนื่องจากสะดวกในการทำและมีความแม่นยำสูง
𝗙𝗜𝗧 คืออะไร
การทดสอบนี้จะตรวจหาสารเลือดที่ซ่อนอยู่ในอุจจาระซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการมีมะเร็งหรือเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ ข้อดีคือไม่ต้องงดอาหารหรือหยุดยา ทำให้สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการทำการทดสอบ
หลักการทำงานของ 𝗙𝗜𝗧
การทดสอบใช้หลักการทางเคมีในการตรวจจับฮีโมโกลบินจากเลือดในอุจจาระ โดยสามารถแยกแยะเลือดจากแหล่งที่ไม่ได้เกี่ยวกับมะเร็ง เช่น โรคกระเพาะอาหารหรือการอักเสบในลำไส้ จึงช่วยลดอัตราผลบวกเท็จ
ประโยชน์ของ FIT
ความไวและความจำเพาะของ FIT
มีความไวประมาณ 70-95% ขึ้นอยู่กับชนิดของการทดสอบและกลุ่มประชากรที่ทำการทดสอบ ความจำเพาะอยู่ในช่วง 85-95% ซึ่งช่วยในการตรวจจับมะเร็งในผู้ป่วย และลดผลบวกเท็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อัตราผลบวกเท็จ (False Positive Rate)
อัตราผลบวกเท็จอยู่ในช่วง 5-15% ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ได้รับผลบวกอาจไม่ได้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่เกิดจากสาเหตุอื่น เช่น เนื้องอกที่ไม่เป็นมะเร็ง การส่องกล้องลำไส้ใหญ่เพิ่มเติมจึงจำเป็นเพื่อยืนยันผลการตรวจ
ค่า NPV และ PPV
ใครควรตรวจ FIT
ข้อควรระวังและการตรวจซ้ำ
ถึงแม้ FIT จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ผลบวกต้องยืนยันด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ และควรทำตามกำหนดเวลาที่แพทย์แนะนำ เช่น ทุกปีหรือทุกสองปี
การทดสอบ FIT เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้สามารถตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้น และลดอัตราการตายจากโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลแพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก